ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

snake is preying on you

snake is preying on you


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง



หากย้อนเวลากลับไปได้ คิมแทฮยองจะไม่เปิดประตูบ้านรับศัตรูเข้ามา อย่างเด็ดขาด

“ก้าวขาออกไปอีกก้าวเดียว ฉันจะฆ่ามันซะ” ดวงตากลมโตจ้องไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย แม้แววตาของเขาจะแข็งกร้าวทว่ากลับสั่นระริกเมื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงของเขากำลังดิ้นรนออกจากมือของมัจจุราช ที่สามารถฆ่าได้ทั้งมันและเจ้าของของมัน

“วางมันลง..เถอะนะ” เขาไม่มีทางเอาชีวิตเล็กๆของแมวเขามาเสี่ยงกับเรื่องนี้ เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปรับแมวมาจากอีกฝ่ายที่นอนอยู่บนเตียง เรือนผมสีน้ำเงินประกายเขียวกับดวงตาดุของคนคนนั้น หากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้อะไรมาก่อนก็คงตกหลุมรักได้ไม่ยาก

แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้น—ไม่ใช่คน

“วันนี้ฉันไม่ฆ่ามัน พรุ่งนี้ฉันก็อาจจะฆ่ามัน อย่ารักมันให้มากนัก ที่รัก” ดวงตานั่นจ้องมองเจ้าขนปุยในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม แทฮยองนั่งลงบนพื้นกอดมันเอาไว้แน่นราวกับหวงแหนเหนือสิ่งใด ครอบครัวของเขาก็คือมัน เจ้าแมวนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา

“เมื่อไหร่จะไปสักที ถ้านายจะฆ่าฉันก็ฆ่าเลยสิ”

“ถึงจะรับประกันไม่ได้ว่าฉันจะพลั้งมือฆ่าเธอไหม แต่..อย่าไล่ฉัน”

“ทำไมถึงเปลี่ยนไป”

“หืม? อะไรล่ะ”

“ทำไมถึงปกป้องฉัน ในเมื่อไม่กี่อาทิตย์ต่อมานายกลับกลายเป็นคนที่จ้องทำลายฉัน”

“เธอรักฉันแล้วที่รัก” ท่อนแขนบางถูกกระชากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจากคนที่นอนอยู่บนโซฟา เจ้าแมวน้อยกระโจนออกจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม มันรีบวิ่งออกไป ขณะที่เจ้านายของมันถูกอ้อมแขนของชายผู้น่าหวาดเกรงคนนี้กกกอด
“ฉันไม่—“
“อย่าพูด ถ้าเธอพูดคำนั้น ฉันอาจจะฆ่าเธอตอนนี้เลยก็ได้”
“ปล่อยฉันไป ฮึก ปล่อย!” แทฮยองร่ำไห้ออกมา เขาอยากจะหนีแต่ความกลัวทั้งหมดนี่ทำให้มันยาก ยากเหลือเกิน กลัวที่จะรักเขาคนนี้ กลัวที่ตัวเองจะเผลอใจรักอสรพิษเข้าแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แก่ใจดีก็ตาม

“เธอทำให้ฉันรักเธอเอง ทำไมถึงไล่ให้ฉันไป”

“เพราะว่าอันตรายไง! นายจะฆ่าฉันตอนไหนก็ไม่รู้ ฉันจะไปไหนกับใครก็กลัวพวกเขาจะโดนฆ่า แม้กระทั่งแมวฉันนายยังจะทำมันได้ลงคอ”

“นั่นเพราะว่าฉันไม่ใช่มนุษย์”

“เพราะนายไม่ใช่ ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปจากชีวิตฉันที่เป็นมนุษย์ได้แล้ว”

“แทฮยองอา เธอเองก็ไม่ใช่หรอกน่า ถึงแม้จะดูเหมือนมากแค่ไหน” ข้อมือของเขาถูกฝ่ามือหนายกขึ้นมา และจับปลายนิ้วดึงเข้าไปหาริมฝีปากหนาที่ประทับลงบนหลังมือ

“ที่รัก เธอรู้รึเปล่าว่ารอยเงาบนแขนซ้ายของเธอมันเป็นรอยอะไร ฉันเคยบอกเธอไปรึยัง?” ดวงตาคมดุจ้องเข้าไปในแก้วตาใสที่ยังสั่นระริกด้วยความกลัว แทฮยองทำให้ทุกอย่างมันเร้าใจเหลือเกิน นักล่าชอบให้เหยื่อหวาดกลัว ข่มให้อีกฝ่ายรู้สึกไร้ทางสู้ มองดูเหยื่อที่ดิ้นรนหาทางหนี ให้ตายเถอะ เขาชอบเหลือเกินที่แม้ว่าตัวจะสั่นแต่ยังพูดเถียงปาวๆกับเขาได้

“มั้ง”

“มันเป็นรอยการแสดงความเป็นเจ้าของของฉัน  เจ้าสาวของงู”

ฟันคมกัดเบาๆบนรอยที่แขนแทฮยอง ร่างบางสะดุ้ง แต่มันไม่ใช่การกัดแบบฝังคมเขี้ยว แค่กัดเบาๆเล็กน้อย ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงซ่าน เมื่อเจ้าของดวงตาคมดุส่งแววตาร้ายกาจนั่นมาให้

“หน้าที่ของเธอคือตกหลุมรักฉัน และตอนนี้เธอก็ทำมันสำเร็จแล้ว”

“ฉันไม่ได้—“

“ชู่ว พูดแล้วไงว่าถ้าเธอพูดเธออาจจะต้องตาย”  อสรพิษในร่างมนุษย์ใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากนุ่มที่ชอบพ่นแต่คำพูดขัดหูเขาทุกทีตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นตัวอันตรายแค่ไหน




“งูจงอางน่ะ ถ้าหากถึงเวลาต้องผสมพันธุ์ หากอีกฝ่ายนึงไม่ยอมมอบร่างกายให้ มันจะฝั่งนั้นฆ่าทิ้งซะ



2

เด็กหนุ่มเดินกลับบ้านตามปกติ บ้านเช่าในตรอกเล็กๆ ด้านหลังของบ้านเขาเป็นบ้านร้างที่ค่อนข้างรกซึ่งหลายคนบอกให้เขาระวังบ้านนั้นจะมีงูและข้ามมาฝั่งบ้านเขา แทฮยองรับฟังและเฝ้าระวัง แม้ว่าจะผ่านมากี่ปีๆก็ไม่เห็นจะมีงูสักตัวโผล่มา

มือเรียวไขกุญแจบ้าน เพื่อจะเข้าบ้าน หากแต่เสียงร้องของแมวเขาทำให้ต้องหันไปมองก่อนจะเปิดประตู และนั่นทำให้เขาพบกับชายหนุ่มผมสีประหลาดกำลังสลบอยู่ที่สวนหน้าบ้านเขา

“คุณ” แทฮยองแตะไหล่ของอีกฝ่าย พยุงอีกคนขึ้นมา วัดลมหายใจและชีพจร ให้แน่ใจว่านี่คนไม่ใช่ศพที่ไหนที่มาตายหน้าบ้านเขา และคนคนนี้มีชีวิต ตามจริงเขาควรพาอีกฝ่ายส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจที่จะเช็ดตัวให้ เพราะตัวค่อนข้างร้อน


เขาดูแลอีกคนเป็นอย่างดีโดยไม่เข้าใจว่าผีบ้าที่ไหนเข้าสิงเขาให้ทำแบบนี้กับคนแปลกหน้า อาจด้วยเพราะเป็นคนใจดี แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะใจดีขนาดเฝ้าไข้

เขายอมโดดเรียนเพื่อเฝ้าอีกคนที่หลับใหลอยู่ถึงสองวัน จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนหลับโดยไม่รู้ตัวว่าตกในภวังค์หรืออะไร ก็แค่อยากนั่งมอง

และเมื่อวันที่สาม คนป่วยฟื้น ตื่นมาก็พบว่าอีกคนนั้นกำลังนั่งมองเขาหลับอยู่ ดวงตาเรียวคมจ้องมองเหมือนจับจ้องเหยื่อ ไม่ว่าเขาจะขยับไปทางไหนก็ไม่ละสายตา อีกฝ่ายดูยังคงมึนอึน ถามว่ามาจากไหนก็ไม่ตอบ ตอบเพียงแค่ชื่อและอาการที่ว่าหายดีแล้วเท่านั้น

“ชื่อจีมิน”


หลังจากวันนั้นคนป่วยก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของแทฮยองโดยที่ยังคงไม่หาย ช่วยแทฮยองปลอกแอปเปิ้ล กินข้าวด้วยกัน แม้ว่าหลังจากที่กินจะแอบเข้าห้องน้ำไปอาเจียน จีมินคนนั้นคลายเหงาให้เขาได้อย่างน่าประหลาดด้วยนิสัยอันน่ารักและอ่อนโยนของอีกคน แทฮยองไม่เคยได้รับจุมพิตที่หน้าผากจากใครก่อนนอน ไม่เคยถูกลูบผม ถูกกอด หรือแม้กระทั่งเสน่หาแก่ใคร แต่ทว่าคนแปลกหน้าคนนี้กลับทำให้เขารู้สึกว่าเขามีค่าเหลือเกิน

“ระวังอย่าให้มีดบาดสิ”

จีมินดึงมีดออกจากมือเขา จับมือของเขามาจูบลงบนแผลเล็กๆน้อยๆที่เลือดซึม พาไปล้างน้ำให้สะอาดและในที่สุดมันก็หยุดไหล สิ่งที่น่าแปลกใจคอมันควรจะแสบหรือเจ็บคันบ้าง แต่ครั้งนี้แทฮยองกลับรู้สึกว่ามือเขาเป็นแผลที่เลือดออกแล้วก็จบ ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ


จีมินออกไปข้างนอกกับเขาในหนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกัน แค่สามสี่ครั้ง เพื่อไปรับเขามาส่งบ้าน หรือ ชวนไปเดินเล่นในตอนดึกๆ

เราเดินจูงมือกัน ความสัมพันธ์ดั่งคู่รักขั้นเริ่มต้น




“แทฮยองนั่นรอยอะไร?”

คำพูดของเพื่อนเขาจองโฮซอกทำให้เด็กหนุ่มมองตามนิ้วที่ของเพื่อนที่ชี้ไปยังแขนของเขา แขนซ้ายที่มีร่องรอยจางๆเป็นเส้นหนาๆพันขดเคี้ยวอยู่บนแขน แทฮยองขมวดคิ้ว เขาเพิ่งเคยเห็นมันอยู่บนร่างกาย มันมาได้อย่างไรกัน นั่นคือสิ่งที่เขาสงสัย ไปทำอะไรไว้จนเป็นแผล หรือเป็นรอยเลอะ?

“ทำไมลบไม่ออก” เขาพึมพำขณะที่ใช้นิ้วถูร่องรอยนั่นจนผิวเนื้อที่นั้นแดงเถือก และต้องหยุดเมื่อเพื่อนของเขาคว้ามือเอาไว้
“ไปล้างน้ำไหม?”
“อือ”

พวกเขาพากันไปยังห้องน้ำ มือเรียวเปิดน้ำจากก๊อก ความเย็นชโลมผ่านผิวเนื้อที่ร้อนผ่าวแสบจากการเสียดสีด้วยการถู แทฮยองลอกถูอีกครั้ง มันไม่ออก เขาใช้สบู่จากห้องน้ำก็ไม่ออก นั่นมันแปลกมากจนเขายอมแพ้และได้แต่มองมัน


“มึงว่ารอยอะไร?”
“ไม่รู้ มันล้างไม่ออก”
“กูว่ามันเหมือนรอยเงาของอะไรที่เป็นเส้นๆพันรอบบนแขนมึง”

“อย่าหาว่ากูโง่เง่างมงายนะ แต่ช่วงนี้มึงไปทำอะไรมา”

“รอยมันคล้ายกับเงาของงู”

เด็กหนุ่มเก็บคำพูดของเพื่อนเอามาคิด เขามองแขนของตนเองที่ถูกแขนของเสื้อฮู้ดสีเทาปิดไว้ ก่อนดวงตากลมโตจะกลับมองถนนข้างหน้าที่ตนเองกำลังเดินอยู่ ขาเรียวรีบก้าวเร็วขึ้นเพื่อกลับไปถึงบ้านตัวเองให้เร็วที่สุด

แทฮยองกลัวงู

ตอนเด็กๆเขาเคยถูกมันกัด ถึงไม่เป็นอะไร แต่ดวงตาของมันที่มองมายังเขาครั้งสุดท้ายนั่นยังชวนขนลุก

แทฮยองมีแผลมากมายบนตัวของเขา แต่แผลที่ไม่ชอบที่สุดก็คือแผลนั้น มันไม่ยอมหายไป ตรงข้อเท้าของเขามีรอยจุดเล็กๆสองจุด มันดูเหมือนรอยงูกัด แต่ในตอนเด็กนั้นแทฮยองแทบไม่มีความทรงจำใดๆที่เกี่ยวกับมันเลย  จำได้ก็แต่แววตา เขาไม่รู้ว่าถูกกัดไหม แล้วรอยนั่นมาจากมันรึเปล่า

คิดจนปวดหัว แทฮยองก็เลิกคิด เขากลับบ้านไปพบกับจีมิน คุยเรื่องราวต่างๆผ่อนคลายความเครียดจนลืมเรื่องรอยที่แขนไป

เขาเพียงแค่คิดว่าบางทีมันอาจจะหายในสักอีกหลายวันข้างหน้า ปัดทิ้งความคิดของคำพูดงมงายจากเพื่อนเขา แค่รอยเป็นเส้นๆก็ตุตะว่าเป็นงูไปได้ ช่างไร้สาระ



แต่แล้ววันนึงแทฮยองที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนกลับไม่พบตัวของชายหนุ่มผมสีประลาดคนนั้น เขาตามหาทั่วบ้าน และพบคราบผิวหนังและเกล็ดที่ลอกออกของงูซึ่งตัวใหญ่มากดูจากขนาดของคราบ ถัดมาพบงูจงอางตัวใหญ่ที่หลบอยู่ในมุมห้องเก็บของ

ขาของแทฮยองสั่น ความหวาดกลัว เขาจำแววตาของมันได้ มันคลับคล้ายกับความทรงจำเพียงหนึ่งเดียวของเขา เด็กหนุ่มแทบไม่มีแรงเดินหนีหรือหาไม้ป้องกันตัว เพียงยืนตัวแข็งราวท่อนไม้ หน้าซีดเซียวเมื่ออสรพิษขนาดใหญ่นั่นกำลังจ้องเขาอย่างไม่ละสายตา

มันเลื้อยเข้ามาอยู่ตรงหน้าของแทฮยอง ที่ปลายเท้าเปลือยเปล่าที่ข้อเท้ามีรอยกัดของงู แทฮยองสะดุ้งเมื่อความนุ่มลื่นและเย็นสัมผัสผิวหนังของเขา เส้นความยาวบางอย่างกำลังม้วนรอบตัวเขาอย่างหลวมๆ ก่อนงูจงอางที่น่ากลัวนั่นจะกลายเป็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนจีมิน หากแต่ตัวสูงและมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างหนากอดแทฮยองเอาไว้ขณะที่แนบหูฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัวในอกของอีกฝ่าย

“แทฮยองอา กลับมาแล้วหรอ”
“...”


ร่างของจีมินถูกผลักออกอย่างแรง เขาสบตาของมนุษย์ที่กำลังสั่นไหวอย่างหวาดกลัว ขาของแทฮยองถอยหลังหนีคนที่ก้าวเข้าหา จนล้มไปกับพื้น ทำให้เขาหมายจะเข้าไปพยุง หากแต่กลับถูกปัดออกและคลานหนีบนพื้น สภาพดูน่าสมเพชในเมื่อเขาคว้าคอเสื้ออีกคนได้จนทำให้มันรั้งคอแทฮยอง เรี่ยวแรงมหาศาลที่ให้แทฮยองต้องหยุดดิ้นรนและอยู่นิ่ง

มือเรียวสวยแตะที่คอของเขา ไอออกมาอย่างทรมาณแค่ครู่หนึ่ง เพราะถูกแรงรั้งของเสื้อกดลำคอไว้ ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวร่างของเขาก็พลิกหงาย ข้อมือสองข้างถูกกดลงข้างหัว แทฮยองดิ้นอีกครั้งหากแต่แรงของเขาหรือจะสู้สิ่งที่ไม่ใช่คนได้

“กลัวฉันหรอ ทำสายตาแบบนั้นคืออะไร เมื่อวานเรายังจูบกันอยู่เลยสายตาที่ทแฮยองมองฉันมันไม่ใช่แบบนี้นี่”
“แกเป็นตัวอะไร?”
“แทฮยอง”
“ฉันถามว่าแกเป็นตัวอะไร!
“...”


“ยากจะอธิบาย แต่เธอก็คงเห็นแล้วว่าฉันเป็นทั้งงูและคน”
“...นายมันอันตราย ออกไปจากชีวิตฉันเถอะ” แทฮยองพูดเสียงแผ่วเมื่อรอยยิ้มบนใบหน้านั้นหายใจ แรงบีบที่ข้อมือมากขึ้นจนทำให้เขาเจ็บปวดร้าว รู้สึกเหมือนกระดูกจะแตก

“อย่าไล่กัน ฉันเป็นของเธอแล้ว เธอจะให้ฉันไปไหน”

“หมายความว่ายังไง? เพ้อเจ้ออยู่หรอก็แค่จูบ—“

ริมฝีปากหนาที่ประทับลงมา ลิ้นร้อนที่แลงบนริมฝีปาก และปลายคางของแทฮยองที่ถูกจับเงยขึ้นและบีบเพื่อให้อ้าปากรับลิ้นของอีกคนเข้าไป แนบแน่นและแทบไม่มีพื้นที่ที่จะหายใจ ความคมปร่าปะปนด้วยความเค็มจากเลือด ท้ายสุดแล้วเมื่อจีมินผละออก แทฮยองก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง ดวงตาพร่ามัวจนมองไม่เห็นใบหน้าหล่อเหลานั่นไม่ชัด ได้ยินเพียงแค่เสียงเท่านั้น

“พิษนี่อยู่ประมาณสองชั่วโมง ช่วยฟังฉันก่อนนะที่รัก ที่บอกว่าฉันเป็นของเธอแล้ว เพราะเธอเองก็เป็นของฉันแล้ว ฉันไม่ใช่งูจงอางตามธรรมชาติทั่วไปที่สามารผสมพันธุ์กับงูตัวไหนก็ได้ ฉันเลือกคนที่ฉันต้องการได้และจะมีเพียงผู้เดียวก็ได้ นี่คือความแตกต่างของฉันและพวกที่อยู่ในป่า”

“ฉันเลือกเธอ คิมแทฮยอง ตั้งแต่เด็ก พวกเราเคยเจอกันสมัยเธอยังเด็กมากจนจำความไม่ได้ ดวงตาของนายดึงดูดฉันจนคิดว่าต้องกัดเธอ ฉันไม่ใช้พิษแค่กัดและออกจากเต้นท์ก่อนพ่อแม่เธอจะเห็นเข้าและจะฆ่าฉันเอา จากนั้นฉันก็ตามมาอยู่ในบ้านร้าง กินงูในนั้นเป็นอาหาร”

“พวกมันจะเข้ามาหาเธอหลายตัวมาก ฉันปกป้องเธอมาตลอด แต่เธอกลับมาไล่ฉัน เธอเองก็ไม่ต่างกันกับฉันหรอก มีเชื้อสายของงูอยู่ ถึงจะท้องไม่ได้แต่ฟีโรโมนที่จะปล่อยออกมาในวันข้างหน้าที่เธอพร้อม มันจะดึงดูดพวกชั่วสันดารเหี้—เข้ามาหาเธอ อย่าอยู่ห่างฉัน อย่าไปจากฉัน ฉันไม่อยากเสียเธอไป”

“แล้วรู้มั้ยถ้าเธอเป็นของคนอื่นฉันต้องบ้าตายแน่ๆ ในเมื่อสัญลักษณ์บนแขนเธอมันจะเกิดขึ้นถ้าใจเธอตอบรับฉันแล้ว ถึงเวลานั้นฉันจะฆ่าไอ้ห่านั่นซะแล้วก็คงต้องฆ่าเธอ”

หลังคำขู่นั้น อีกสองชั่วโมงแทฮยองก็ขยับตัวได้และหายเป็นปกติ ร่างของเด็กหนุ่มถูกงูจงอางขนาดยาวโอบล้อม แทฮยองข่มตานอนไม่หลับ แต่เมื่อได้จ้องมองดวงตาของอสรพิษเขาก็ผล็อยหลับไปเสียอย่างนั้น เพื่อมีแรงตื่นไปโรงเรียนในรุ่งเช้า ชีวิตปกติที่มีแต่มนุษย์



เขาใช้ชีวิตไปเรื่อยๆกับจีมิน แม้จะไม่เข้าใจว่าทั้งที่กลัวทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ หรือหาวิธีกำจัด อาจจะเพราะเขารู้ว่าจีมินจะไม่ทำอะไรเขาตราบใดที่เขายังไม่พูดคำนั้น มันเสี่ยง ใครจะรู้อนาคตเล่า หากว่าเผลอพูดออกไป—

คิมแทฮยองสับสนและคิดวนไปมาวันละสองรอบ บางวันจีมินก็นิสัยเหมือนหมาบ้า แต่บางวันก็เป็นปกติ ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งทวีคูณ ในความหวงและเผด็จการยิ่งกว่าใคร แม้ว่าแทฮยองเองก็เต็มใจ เพราะรู้ว่าเหตุผลหลักๆของมันคืออะไร

ให้ตายสิ พอความรักเกิดขึ้นมาแล้วนั่นเป็เหตุผลเดียวที่มากพอจะตอบคำถามซ้ำๆของเขาได้ว่าทำไมเขาถึงทนคนที่มีนิสัยมนุษย์ครึ่งนึงและสัญชาตญาณดิบของสัตว์ร้ายครึ่งนึงได้
.
.
.

3

แต่หากย้อนเวลากลับไปได้ คิมแทฮยองจะไม่เปิดประตูบ้านรับศัตรูเข้ามา อย่างเด็ดขาด


“ก้าวขาออกไปอีกก้าวเดียว ฉันจะฆ่ามันซะ” ดวงตากลมโตจ้องไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย แม้แววตาของเขาจะแข็งกร้าวทว่ากลับสั่นระริกเมื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงของเขากำลังดิ้นรนออกจากมือของมัจจุราช ที่สามารถฆ่าได้ทั้งมันและเจ้าของของมัน

“วางมันลง..เถอะนะ” เขาไม่มีทางเอาชีวิตเล็กๆของแมวเขามาเสี่ยงกับเรื่องนี้ เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปรับแมวมาจากอีกฝ่ายที่นอนอยู่บนเตียง เรือนผมสีน้ำเงินประกายเขียวกับดวงตาดุของคนคนนั้น หากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้อะไรมาก่อนก็คงตกหลุมรักได้ไม่ยาก


แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้น—ไม่ใช่คน

“วันนี้ฉันไม่ฆ่ามัน พรุ่งนี้ฉันก็อาจจะฆ่ามัน อย่ารักมันให้มากนัก ที่รัก” ดวงตานั่นจ้องมองเจ้าขนปุยในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม แทฮยองนั่งลงบนพื้นกอดมันเอาไว้แน่นราวกับหวงแหนเหนือสิ่งใด ครอบครัวของเขาก็คือมัน เจ้าแมวนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา

“เมื่อไหร่จะไปสักที ถ้านายจะฆ่าฉันก็ฆ่าเลยสิ” แทฮยองพูดด้วยความเคยชิน จีมินมักจะพูดประมาณว่าถ้าเขาใจร้าย ตัวเองก็คงจะบังคับไม่ให้ฆ่าได้ยาก

“ถึงจะรับประกันไม่ได้ว่าฉันจะพลั้งมือฆ่าเธอไหม แต่..อย่าไล่ฉัน”
“ทำไมถึงเปลี่ยนไป”
“หืม? อะไรล่ะ”
“ทำไมถึงปกป้องฉัน ในเมื่อไม่กี่อาทิตย์ต่อมานายกลับกลายเป็นคนที่จ้องทำลายฉัน”


“ก็เธอรักฉันแล้วที่รัก” ท่อนแขนบางถูกกระชากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจากคนที่นอนอยู่บนโซฟา เจ้าแมวน้อยกระโจนออกจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม มันรีบวิ่งออกไป ขณะที่เจ้านายของมันถูกอ้อมแขนของชายผู้น่าหวาดเกรงคนนี้กกกอด “อยากให้ฉันเป็นแบบเมื่อก่อน เธอก็ต้องระวังที่ฉันเตือนไว้บ้างสิ”

“ฉันไม่—“
“อย่าพูด ถ้าเธอพูดคำนั้น ฉันอาจจะฆ่าเธอตอนนี้เลยก็ได้”

“ปล่อยฉันไป ฮึก ปล่อย!” แทฮยองร่ำไห้ออกมา เขาอยากจะหนีแต่ความกลัวทั้งหมดนี่ทำให้มันยาก ยากเหลือเกิน กลัวที่จะรักเขาคนนี้ กลัวที่ตัวเองจะเผลอใจรักอสรพิษเข้าแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แก่ใจดีก็ตาม  สับสนว่าควรรักหรือไม่ควรรัก ถามตัวเองอยู่ทุกวัน บางครั้งจีมินก็ทำเหมือนแค่เขาเป็นของของตัวเองที่หวง แต่บางครั้งจีมินก็ทำให้แทฮยองรู้สึกมีค่ามากกว่าคนไหนๆ ช่างน่าสับสนใจ


“เธอทำให้ฉันรักเธอเอง ทำไมถึงไล่ให้ฉันไป”
“เพราะว่าอันตรายไง! นายจะฆ่าฉันตอนไหนก็ไม่รู้ ฉันจะไปไหนกับใครก็กลัวพวกเขาจะโดนฆ่า แม้กระทั่งแมวฉันนายยังจะทำมันได้ลงคอ”

“นั่นเพราะว่าฉันไม่ใช่มนุษย์”
“เพราะนายไม่ใช่ ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปจากชีวิตฉันที่เป็นมนุษย์ได้แล้ว”

“แทฮยองอา เธอเองก็ไม่ใช่หรอกน่า ถึงแม้จะดูเหมือนมากแค่ไหน” ข้อมือของเขาถูกฝ่ามือหนายกขึ้นมา และจับปลายนิ้วดึงเข้าไปหาริมฝีปากหนาที่ประทับลงบนหลังมือ

“ที่รัก เธอรู้รึเปล่าว่ารอยเงาบนแขนซ้ายของเธอมันเป็นรอยอะไร ฉันเคยบอกเธอไปรึยัง?” ดวงตาคมดุจ้องเข้าไปในแก้วตาใสที่ยังสั่นระริกด้วยความกลัว แทฮยองทำให้ทุกอย่างมันเร้าใจเหลือเกิน นักล่าชอบให้เหยื่อหวาดกลัว ข่มให้อีกฝ่ายรู้สึกไร้ทางสู้ มองดูเหยื่อที่ดิ้นรนหาทางหนี ให้ตายเถอะ เขาชอบเหลือเกินที่แม้ว่าตัวจะสั่นแต่ยังพูดเถียงปาวๆกับเขาได้

“มั้ง” พูดแบบนั้นแต่ทว่าในหัวก็นึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายเคยบอกไปแล้ว ดวงตากลมโตจ้องมองพื้นเย็น ไม่สบตากับอสรพิษร้าย
“มันเป็นรอยการแสดงความเป็นเจ้าของของฉัน  เจ้าสาวของงู”

ฟันคมกัดเบาๆบนรอยที่แขนแทฮยอง ร่างบางสะดุ้ง แต่มันไม่ใช่การกัดแบบฝังคมเขี้ยว แค่กัดเบาๆเล็กน้อย ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงซ่าน เมื่อเจ้าของดวงตาคมดุส่งแววตาร้ายกาจนั่นมาให้


“หน้าที่ของเธอคือตกหลุมรักฉัน และตอนนี้เธอก็ทำมันสำเร็จแล้ว”
“ฉันไม่ได้—“


“ชู่ว พูดแล้วไงว่าถ้าเธอพูดเธออาจจะต้องตาย”  อสรพิษในร่างมนุษย์ใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากนุ่มที่ชอบพ่นแต่คำพูดขัดหูเขาทุกทีตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นตัวอันตรายแค่ไหน



“งูจงอางน่ะ ถ้าหากถึงเวลาต้องผสมพันธุ์หากอีกฝ่ายนึงไม่ยอมมอบร่างกายให้ มันจะฆ่าทิ้งซะ”


“จองกุกน่าจะมาด้วยเนอะ แปลกแฮะ ช่วงนี้ไม่มาโรงเรียนเลย ไม่ได้ลาป่วยไว้ด้วย ลากิจก็ไม่”

“แทฮยองกับจองกุกสนิทกันนี่ ไม่เหงาหรอ”
“ไม่หรอก”

เขารู้สึกได้ว่าสายตานั้นจับจ้องอยู่ในทุกฝีเท้าที่เดิน ในทุกคำที่พูด ในทุกการแสดงออกที่เป็น ดวงตากลมโตมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอนเขา วันนี้เพื่อนเขา พัคโบกอมมาที่บ้านเพื่อที่จะทำรายงานกัน และเขาจำต้องขอร้องให้อสรพิษซ่อนตัวไว้ด้วยการแปลงกลับเป็นงูจงอางตัวยาวขดกันอยู่ในตู้เสื้อผ้า

“อ้อ ใช่! แทฮยอง ไม่กินพุดดิ้งหรอ อุตส่าห์ซื้อมาด้วยกัน”


“อ่า อื้ม” แทฮยองรับถ้วยพุดดิ้งมาจากเพื่อนเขา รับช้อนเล็กๆนั่นมาด้วย เขาโฟกัสที่ขนมหวานพยายามลืมสิ่งอันตรายในนั้น แก้มนิ่มเคี้ยวมัน ความหอมและอร่อยทำให้แทฮยองสมองปลอดโปร่งขึ้นมาก เขารีบกินเพื่อที่จะได้รบทำงานให้เสร็จเพื่อส่งครู โบกอมจะได้กลับบ้านไม่ดึกมาก

“แทฮยอง หันหน้ามาหน่อยสิ”

นิ้วโป้งของชายหนุ่มแตะลงข้างมุมปากอย่างอ่อนโยน แทฮยองพึมพำว่าขอบคุณเบาๆ เขาหวังว่าเมื่อครู่นี้ จีมินจะไม่เห็นมัน

ด้วยความกลัวและรู้สึกได้ว่าที่แขนมันร้อนผ่าวแปลกๆจึงทำให้เขาฉุกคิดได้ว่าบางทีพัคโบกอมอาจช่วยเขาได้ เพราะเดิมทีก็สนิทกันมาตั้งแต่ประถม อีกคนอาจเป็นแสงสว่างในการได้ระบายกับใครบ้างว่าชีวิตของเขามันไม่ปกติยังไง ช่วยพาเขาออกไปจากตรงนี้ที

“โบกอม ถ้าฉันพูดอะไรที่ฟังดูไม่เข้าท่า นายจะเชื่อฉันมั้ยว่านั่นคือเรื่องจริงที่ฉันเผชิญอยู่”
“แน่นอนสิ”
“นายเห็นรอยที่แขนฉันไหม มันเหมือนงูพันรอบแขนฉันเลย”
“จริงด้วย นายไปทำอะไรมาถึงได้มีมันเนี่ย ล้างออกรึเปล่า?”
“ไม่ ล้างยังไงก็ไม่ออก โบกอม ฟังนะ ฉันมีเรื่อง—“


“เรื่องอะไรหรอ?”

แทฮยองเม้มริมฝีปาก เขาสั่นจนไม่มีแรงพูดแล้ว มันไม่มีอะไร แต่เขากลัว กลัวว่ามันจะไม่ได้ผล จีมินจะฆ่าเขาแน่ โบกอมเองที่ถูกลากเข้ามาด้วยเช่นกัน ดวงตากลมคลอไปด้วยของเหลวอุ่นร้อนมองผ่านช่องตู้เสื้อผ้า ลูกแก้วทะมึนที่ประกายแวววับใต้ความมืดทำให้เขาไม่มีแม้แต่เสียงจะเอื้อนเอ่ย โบกอมที่เห็นแทฮยองหน้าซีดเซียว เหงื่อโชกตัวก็กระวนกระวาย เขาแตะไหล่เพื่อน ที่สะดุ้งเหมือนเห็นผ แทฮยองส่ายหน้า ก่อนจะพูดกับโบกอม

“ไว้วันหลังนะ วันนี้ฉันป่วย นายกลับไปก่อนเถอะ ที่เหลือฉันจัดการต่อเอง ดึกแล้ว”

“แทฮยอง นายไม่สบายหรอ ให้ฉันช่วย—“
“ไม่ต้อง รีบกลับไปเถอะโบกอม นะ ขออยู่คนเดียว”


.
.


โบกอมกลับไปแล้ว ร่างบางที่ฝืนกายลุกไปส่ง เมื่อประตูปิดลงเขาก็ทรุดลงนั่ง มองร่างยาวๆของอสรพิษที่เลื่อยเข้ามา ดวงตาของมันแข็งกร้าว แทฮยองเคยเจอมาแล้วเมื่อครั้งก่อนที่กลับมาแล้วจีมินบอกว่าตัวเขามีกลิ่นงูตัวอื่น แทฮยองปฏิเสธแทบตายว่าเขาไม่ได้ให้งูตัวไหนเข้าใกล้ ไม่เคยเจอด้วยซ้ำ จีมินกลับต่อว่าเขาว่าไม่ระวังตัว ทำให้ทะเลาะกันจนวันนั้นแทฮยองถูกกลบด้วยกลิ่นของจีมินทั้งคืน

แต่ความผิดคราวนี้มันมากกว่านั้นมาก

“ยกโทษให้ฉันด้วย”

เสียงสั่นเครือถูกส่งออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม อสรพิษคลานเข้ามาอยู่บนตัวเขาแล้ว มันแผ่แม่เบี้ยด้วยความโกรธ ใช้ความยาวของมันรัดร่างของแทฮยองเอาไว้ ไม่มากเหมือนอนกินเหยื่อ แต่ก็แรงพอจะทำให้แทฮยองกลัว จีมินไม่ต้องการจะทำแบบนั้น เพียงแต่แทฮยองคิดจะเปิดโปงความลับเขา ไม่สิ ความลับเรา นั่นทำให้เขาโกรธ

“เจ็บ..” ผิวหนังเคลือบด้วยเกร็ดบีบรัดเข้าหาจนผิวสีน้ำผึ้งแดงเป็นรอย จีมินเป็นจงอางที่ตัวใหญ่มาก แม้ว่าจงอางจะลอกคราบบ่อยและโตขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดโต แต่ตอนนี้ก็โตมากพอจะปกคลุมมนุษย์อย่างแทฮยองได้ทั้งตัว ตรงที่เบาที่สุดคือลำคอ แทฮยองหายใจไม่ออก และเมื่อจะไม่ไหวอีกฝ่ายกลับบ่อยให้หายใจ

“ป—“ แทฮยองหยุดปากของเขาทันที นึกถึงคำพูดของอีกคน หากว่าปฏิเสธเรื่องนี้กับงูตัวผู้ มันจะฆ่าอกใยอย่างไม่มีความลังเลใดใด สุดท้ายแล้วเขาจะต้องตาย



ไม่นานจากอสรพิษร้ายก็กลายเป็นชายหนุ่มผมสีประหลาด ร่างบางถูกเปลื้องผ้าอย่างรวดเร็วด้วยการฉีกกระชากออก เศษกระดุมที่หลุดออกจากเสื้อเชิ้ตนักเรียนบนตัวแทฮยองทำให้ทุกอย่างมันปลุกปั่นอารมณ์ของนักล่า ร่างบางถอยหลังจนชิดขอบประตู ข้อเท้าถูกจับและยกขึ้น กางเกงของแทฮยองเองก็ถูกถอดออก เรียวขายาวสวยที่เป็นรอยแดงจากการถูกรัดเมื่อครู่โชว์สู่สายตา

ฉึ่ก!

เขี้ยวคมที่งอกออกมากัดเข้าที่เดิมบริเวณจุดดำทั้งสองของข้อเท้าเล็ก เช่นเดิม เขาไม่ได้ใส่พิษลงไป จงอางนั้นสามารถควบคุมปริมาณพิษได้ แม้พิษของเขาจะไม่รุนแรงมากเท่างูเห่า หากแต่ปริมาณพิษที่เก็บไว้สามารถฆ่ามนุษย์ได้อย่างง่าย

มือหนากระชากข้อเท้าขึ้นพาดบ่า สอดนิ้วของเขาเข้าไปด้านในช่องทางที่เชิญชวนอยู่ตอนนี้ ด้วยความเย็นของนิ้วและผิวหนังของเขา เนื่องจากเป็นสัตว์เลือดเย็น เขาชอบที่ช่องทางนั้นตอดรัดกันอย่างดี ขยับเล็กน้อยเพื่อปรับขยายรองรับการลงโทษจากจีมิน เขาได้ยินเสียงครางอืออึง

“ชู่ว อย่ามีเสียงร้องให้ฉันได้ยินล่ะ ฉันต้องยั้งใจไม่ได้แน่ๆ”

เวลาที่งูผสมพันธุ์มันจะเอาตัวแนบชิดกัน กลิ่นจะติดตัวกัน และตอนนี้แทฮยองถูกจับหันหลัง ใบหน้าสวยแนบกับประตูเย็น สัมผัสจากคนด้านหลังที่เข้ามาแนบชิดทำเอาเขาแทบบ้า แต่ยังไม่ใช่ที่สุด

“อึก—อ๊า” ส่วนอุ่นร้อนสอดเข้ามายังช่องทางรวดเดียวจนสุด ร่างบางโก่งตัวลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกจุก มือเรียวยันกับบานประตูข้างนึง ส่วนอีกข้างนึงยันที่พื้น แรงกระแทกเข้ามาอย่างแรงทำให้เขาต้องกัดปากกลั้นเสียงเอาไว้

ร่างบอบบางของคิมแทฮยองโยกไปโยกมา แผ่นหลังและเอวแนบชิดกับหน้าท้องแกร่งที่มีกล้ามเนื้อเป็นลอน มือหนาบีบฟ้อนเฟ้นสองก้อนกลม ทั้งแหวกออกและกระแทกกายใส่ ทั้งตบมันจนได้ยินเสียงน่าอายไปทั่ว

“แฮ่ก—ฮ อือ” แทฮยองหอบหายใจเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น แกนกายที่อยู่ด้านในตัวถอดออก จนได้ยินเสียงอย่างน่าอาย

“อา..”

เนื่องจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้แทฮยองตาพร่ามัว มองอะไรไม่ชัดเนื่องจากแรงที่กระทำนั้นส่งมาอย่างแรงและเร็ว จนเขาต้องใช้ข้อศอกสองข้างยันพื้น ผิวเนื้อร้อนระอุจากความเร้าร้อนที่แผ่จากด้านใน

รู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่สอดแทงเข้ามา รวมถึงตัวเขาที่ตอบรับอย่างแนบแน่น การเสียดสีที่รุนแรงและทวีความเร็วมากขึ้นทำให้รู้สึกแสบ ทว่าการที่มันกระแทกเข้ามาโดนจุดสำคัญทำให้เสียดเสียวจนแทบบ้า


สุดท้ายทุกอย่างก็จบลง เมื่อของเหลวอุ่นร้อนถูกฉีดเข้ามา จีมินค้างไว้พักหนึ่ง ดวงตาคมมองเจ้าของร่างที่สะบักสะบอมพอควร สะโพกผายกระตุกเล็กน้อยรับสิ่งที่เขามอบให้ถึงข้างในร่างกาย และเมื่อเขาถอดส่วนนั้นออกมา สิ่งที่ฝากไว้บางส่วนก็ไหลออกมาทางปากทางเล็กน้อย

ดวงตามองสำรจความเสียหายของแทฮยองอีกครั้งหนึ่ง ร่างกายที่นอนหอบหายใจอย่างหมดแรง รอยแดงเกิดขึ้นจากการถูกรัด นั่นเป็นสิ่งที่แทฮยองได้รับหลังจากแสดงความกล้าออกมาอย่างโง่ๆ  และช่องทางที่ถูกรุกล้ำด้วยความพิโรธนั่นก็เช่นกัน


4


“อึก-“

แทฮยองกลั้นเสียงสะอื้น แผ่นหลังบางแนบชิดติดกับกำแพง ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อพบว่าจีมินกำลังโมโห ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าทำไม แต่อยู่ๆอีกฝ่ายก็โผล่มาที่โรงเรียนทั้งที่ความปลอดภัยรัดกุมมาก ชายหนุ่มฉุดกระชากเขา ถามหาที่เงียบๆในโรงเรียนจากแทฮยองและให้พาไป พอมายังห้องเก็บของเก่า เขาก็ถูกอัดติดกำแพง

แทฮยองเป็นเด็กดีของจีมินมาตลอดหลังจากรู้ความจริง นั่นทำให้เขาทั้งสับสนและสงสัยว่าตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนโกรธอะไรแล้วมาลงที่เขา

คอเสื้อที่ติดกระดุมจนมิดถูกดึงออกจากกระดุมหลุด แทฮยองมองดวงตาดุที่จ้องมองมัน ขณะที่ขยับเข้ามาใกล้เขา สัมผัสชื้นแฉะแตะลงบนลำคอระหงส์ เพียงนิดเดียว ก่อนจะผละออกและผลักแทฮยองชนกำแพงจนแผ่นหลังปวดร้าวขึ้นมา จีมินหอบหายใจ ดวงตาของเขามองไปที่แทฮยองซึ่งกำลังทรุดตัวนั่งลง กลัวจนยืนแทบไม่ไหว

เส้นเลือดที่แขนและคอปูดขึ้นมาจนเห็นได้ชัด จีมินตอนนี้เพียงแค่จ้องเขาและหายใจ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามคุมอารมณ์ของตนเองไม่ให้ทำร้ายแทฮยองอีก เมื่อเห็นมนุษย์ตัวน้อยของเขานั่งคู้ตัวอย่างหวาดกลัว

งูรับกลิ่นทางลิ้น และนั่นคือเหตุผลที่จีมินทำแบบนั้น เขาได้กลิ่น—ไอ้ชาติชั่วที่บังอาจเข้าใกล้แทฮยองและทำให้เกิดกลิ่น แม้จะเล็กน้อย แต่มันอันตรายแน่ๆ

“มันคือใคร?”

“อะ..อะไร”


“แทฮยอง กลับบ้านเลยตอนนี้ เธอจะอ้างว่าป่วยหรือมีธุระอะไรก็ได้ แต่มันอันตรายเกินไปแล้ว”



“มีอะไรไว้คุยที่บ้าน —“

“อ้าว แทฮยองเองก็ขอลากลับเหมือนกันหรอ?”

ดวงตาทั้งสองคู่หันไปมองเด็กหนุ่มตัวสูงที่สะพายกระเป๋าเป้ไว้ด้านหลัง อสรพิษในร่างกูมองเด็กหนุ่มคนนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาได้ยินแทฮยองพึมพำชื่อว่า จองกุกเจ้าเด็กนั่นขยับเข้ามาใกล้เราสองคน ดวงตาของเขาจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา เด็กนั่นก็เช่นกัน

“คือว่าฉันโดดเรียนน่ะ จ้างคนมาทำทีเป็นผู้ปกครอง ว่างๆแบบนี้ขอไปนั่งเล่นที่บ้านนายหน่อยสิ แทฮยองอา”
“เอ๋? เอ่อ...คือ” ดวงตากลมมองคนข้างกาย เขาคิดอยู่แล้วว่ามากกว่าครึ่งของความเป็นไปได้ จีมินไม่มีทางอนุญาตแน่ๆ หากแต่กลับแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายเพียงแค่ยิ้มให้เขา



“ว่าไง?”
“ได้..อืม ได้สิ”

“แล้วนี่ใครหรอ?”
“จีมิน เป็น.. ญาติห่างๆ”
“จีมินนี่จองกุก เพื่อนสนิทฉัน”


“เพื่อนสนิท—อ่า” แทฮยองมองทั้งสองคนที่เอาแต่จ้องกันไปมาตั้งแต่เมื่อครู่ แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แต่เขากลับรู้สึกอดอัดและคิดว่าต้องออกไปจากสถานการณนี้เดี๋ยวนี้


“งั้น ไปกันเถอะ”






“ฉันจะไปเอาขนมมาให้ กินน้ำอะไร ส้ม ชา กาแฟ?”
“น้ำส้มแล้วกัน”

เด็กหนุ่มทิ้งเพื่อนไว้ในห้องรับแขก เขาออกมาจากตรงนั้น มองผู้ชายผมสีฟ้าผสมเขียวที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ สายตาที่มองมาก็รู้ว่ามีอะไรจะพูดกัน แทฮยองจึงเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดาย มายังห้องนอนของเขา จีมินปิดประตู ก่อนจะวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มของเด็กหนุ่ม

“แทฮยอง ฟังนะ นี่เรื่องสำคัญ เพื่อนเธอเป็น—แบบฉัน”
“หา?”


“นี่คือสิ่งที่ฉันต้องเตือนเธอเสมอๆ นอกจากเธอเป็นของฉัน เธอจะต้องระวัง เพราะเธอเป็นมนุษย์ที่มีฟีโรโมนดึงดูดพวกงู ฉันตามฆ่าพวกมันทุกตัว และตอนนี้เธอเพิ่งจะถูกฉันกอดไปเมื่อสองวันก่อน การที่มันออกมาจากโรงเรียนพร้อมเธอ แล้วขอมากับเธอ เพราะมันจ้องจะผสมพันธุ์กับเธอ”

“แต่ฉันท้องไม่ได้นะ แล้ว...”

“ใครสน ฟีโรโมนของเธอเรียกมันมาเพื่อผสมพันธุ์ สาเหตุแค่นี้ก็มากพอแล้ว”
“จองกุกเป็นเพื่อนฉันมาก่อนนายจะมาอีกนะจีมิน ฉันว่าเขาไม่ใช่หรอก”

“เวลาปกติพวกแบบฉันจะอยู่กลมกลืนกับมนุษย์ หลบซ่อน หาที่พักพิงอย่างสันโดษ หรืออะไรก็ได้ทั้งนั้น อย่างฉันคือประเภทสันโดษ หลบอยู่จนกระทั่งวันนั้นเธอมาเจอฉันที่อ่อนเพลียจากการลอกคราบ ถ้าเธอไม่เจอฉันก็คงอยู่แบบนั้นต่อไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น นี่คือเรื่องสำคัญทั้งกับฉันและชีวิตของเธอ”


“มันต้องการเธอและจำได้ไหมว้าเธอมีท่าทีไม่ยินยอม พวกงูอย่างฉันจะฆ่าอย่างไร้ความปรานี มันรู้ว่าเธอมีฉันเป็นเจ้าของแต่ยังมาหาเธอ นั่นแปลว่าเราต้องสู้กัน ฉันถึงชวนมันมาที่นี่ คนที่ชนะจะได้เธอไป เป็นธรรมชาติของตัวผู้ แทฮยองอา ถ้าหากฉันแพ้ และมันเห็นว่าเธอมีรอยกัดที่ข้อเท้าจากฉันและตรงแขนเธอแล้ว เธอต้องถูกมันฆ่า ฉันต้องออกไปจากเธอ เข้าใจใช่มั้ย”

“แล้..แล้ว ฉันต้องทำยังไง”
“เชื่อใจฉันไหม?”
“อือ”

มือหนาทั้งสองข้างแตะลงบนแก้มนิ่มทั้งสอง หน้าผากชนหน้าผาก เขามองแววตาที่สั่นเครือด้วยความกลัวเป็นปกติของสิ่งมีชีวิตที่พบเจออะไรที่น่ากลัว แววตาแน่วแน่จากชายหนุ่มทำให้ความกลัวของแทฮยองถูกกดไว้ เขาค่อยๆหายใจเข้า—ออก ช้าๆ

“หนี ไปหลบอยู่ที่บ้านร้าง ที่นั่นมีกลิ่นงูหลายตัว ตายหมดแล้ว มันจะช่วยกลบกลิ่นของนายได้ ถ้าเสร็จแล้วฉันจะไปรับเธอเอง อย่าออกมา อย่าส่งเสียง แต่ถ้าไม่ ให้เธอหลบจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย”

“ฉันจะพยายาม ที่รัก”









“อ้าว แทฮยองไม่เอาน้ำส้มมาให้แล้วหรอเนี่ย แย่จัง” เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกมองจงอางตัวใหญ่ที่เลื้อยเข้ามา มันแผ่แม่เบี้ยใส่เขา เตรียมพร้อมสู้  เด็กหนุ่มลงจากโซฟา ลุกขึ้นยืนก่อนจะแปลงเป็นงูจงอางเช่นกัน ซึ่งขนาดตัวและความยาวนั้นมากพอๆกันกับจีมิน

หลักการสู้ไม่มีอะไรมาก พวกเขาจะเอาตัวพันกันไปมา พยายามกดหัวของอีกฝ่ายลงและใช้คมเขี้ยวที่ไม่มีพิษฝังลงไปยังผู้แพ้ และผู้แพ้จะต้องจากไป







ตัดมาที่แทฮยอง เขาปีนจากหน้าต่างห้องลงมายังหลังคาที่เฉียงต่อจากตัวบ้าน ที่ต้องออกมาจากทางนี้เพราะพวกงูกำลังสู้กันอยู่ตรงห้องรับแขกซึ่งเดินลงบันไดไปเงียบเชียบเพียงใด จอนจองกุกก็รู้

เท้าเปล่าแตะลงบนพื้นบ้านอย่างปลอดภัย แทฮยองเริ่มปีนกำแพงข้ามไปอีกบ้านนึงต่อ เมื่อลงมาก็คาวมเจ็บจากเท้าที่แล่นมาจนแทบอยากจะร้องแต่เขาก็ต้องใช้ฟันกัดข้อมือเพื่อกลั้นเสียงร้องจากความเจ็บ เศษแก้วที่ประปรายบนพื้นบาดเข้าจนเลือดไหล เด็กหนุ่มเดินโซซัดโซเซมองมองอย่างระวัง บ้านนี้ร้างจนรกไปหมด มันน่ากลัว แต่แทฮยองก็ต้องทำใจดีสู้เสื้อเดินเขาไปด้านในเพื่อให้ถึงตัวบ้าน ซากงูที่กองอยู่หน้าบ้านทำให้รู้ว่าจีมินกิไปมากแค่ไหน มิน่าล่ะตัวใหญ่นัก เขาก้าวเข้าไปด้านใน นำขวดน้ำออกจากกระเป๋าเป้เล็กๆที่พกมา นอกจากนี้ยังมี ขนมบิสกิตที่อยู่ในห้อง ผ้าเช็ดหน้า ไฟฉาย โทรศัพท์  เสื้อกันหนาวตัวใหญ่

มือเรียวเปิดขวดออก ใช้น้ำส่วนนึงล้างแผลอย่างประหยัดเพื่อเก็บไว้กิน และใช้ผ้าเช็ดหน้ารองฝ่าเท้าเอาไว้ ตอนนี้เขาอยู่ชั้นสองของบ้าน มีเตียงนอน และข้าวของพังที่กระจัดกระจาย
จัดการนำเสื้อกันหนาวออกมาคลุม โทรศัพท์ของเขาแบตก็จะหมด แต่ไม่มีเวลาได้ชาร์จ ที่นี่ไฟฟ้าถูกตัด ดังนั้นก็ได้แต่ภาวนาให้แบต40%                อยู่กับเขาไปนานๆ

“จีมิน ..รีบมาเถอะนะ”







แทฮยองผล็อยหลับไป ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่ตื่นมาเพราะว่าได้ยินเสียงครึกโครมมาจากบ้านของเขา ในใจก็คิดกังวล แทฮยองเคยกลัวตาย ตอนนี้ก็ยังคงกลัว กลัวจีมินจะฆ่าเขา กลัวแต่ชะตาก็เล่นตลกให้เขาทั้งกลัวทั้งรักอีกคน แต่ตอนนี้สิ่งที่กลัวมากกว่าคือจีมินไม่กลับมา เขาจะไม่ใช่ของของจีมิน

แทฮยองไม่ได้โง่ที่เชื่อใจจีมิน ทั้งที่นั่นก็เพื่อนเขา แต่เพราะเขารับรู้ได้จากรังสีและบรรยากาศแปลกๆคลับคล้ายจีมินออกมาจากอีกฝ่าย ทั้งแววตาปรารถนาที่ไม่คุ้นชิน



“ฮึก” ความกลัวทำให้น้ำตาเอ่อคลออีกครั้ง แทฮยองเป็นคนขี้กลัวแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกับโลกและสังคมของมนุษย์พอสมควร แต่กับเรื่องพวกนี้ มันยากที่จะทำใจให้เย็นลงได้


               ไม่นานจากนั้นประมาณห้านาที ร่างบอบบางคู้ตัวกอดเข่า เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังขึ้นบันไดมา เพราะบันไดมันเก่าเมื่อเหยียบลงจึงเสียงดังกว่าทั่วไป ใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความระทึก แม้จะกลัวหากแต่ดวงตานั้นจ้องมองประตูอย่างไม่คลาดสายตาเลยสักวินาที

              เสียงฝีเท้านั้นหยุดลง ตามมาด้วยเสียงกลอนประตูถูกหมุน


              สภาพของอสรพิษในคราบมนุษย์สะบักสะบอมเล็กน้อย และแทฮยองเห็นรอยกัด เขารีบตรงเข้ามาหาอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่ห่วงใยอย่างไม่ปกปิด จ้องมองแผลกัดที่เหวอะหวะพอควร


               “ไอ้เด็กนั้นเก่งดีนะ”
               “เจ็บ เจ็บมั้ย”
               “อืม เจ็บมาก แต่ชนะนะ กลัวมากไหม?”
               “กลัวสิ”


              อ้อมแขนอันอบอุ่นของเด็กหนุ่มโผกอดชายหนุ่มสีผมประหลาด  
               “แต่มันไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

               “ ฉันยังคงเป็นของนายอยู่ นายเองก็ยังเป็นของฉัน”  

               “จะไม่ไล่ไปไหนอีกแล้ว อยู่ด้วยกันตลอดไปนะจีมินอา”




 ------------------


เป็นการเขียนฟิคที่เหนื่อยมากค่ะ คือโดยปกติอย่างเราพันคำก็หรูแล้ว ถ้าจะยาวสามพันอัพคือต้อง2-3วัน แต่นี่คือวันเดียว โอโห แล้วคือแบบขอโทษนะคะที่เอ็นซีมันมั่ยเต้มรูปแบบ พอดีไม่ไหวแน้ว55555555555 การเขียนผัวสายดิบก็ยากนะคะ ไม่รู้จะมีใครเข้าใจไหม แต่ว่าจีมินใจร้ายบ้างดีบ้าง คือชอบขู่ฆ่า จริงๆไม่ได้ขู่แต่คือเรื่องจริง ทุกอย่างในเรื่องนี้เอามาจากสารคดีค่ะ แปะ https://youtu.be/eEmcDF4hj5c ฮือ พล็อตนี้เดิมทีเราไม่ได้คิดเองค่ะ มีพี่ทวิตแล้วเขาเอาพล็อตให้เราไปสานต่อ 
เราก็ต่อเติมจากสารคดีนั่นแหละ ผูกเรื่องราวในหนึ่งคืนแล้วตื่นมาเขียน ฟิคนี้เหมือนgoodbye stage สำหรับเราเลย5555555555 เปิดเทอมแล้วคงเจอมลพิษมากมายก่อกวนความคิดสร้างสรรค์เหมือนเคยค่ะ ขอบคุณที่รักกัน ขอบคุณที่ชิปมินวี ขอบคุณที่มาอ่าน และจะดีมากหากเราได้ค่าเหนื่อยเป็นคอมเม้นเล็กๆน้อยๆปิดจบไปอย่างสวยๆ ต่อจากนี้คงเจอเราที่จอยเก๊กฮวย ผีบ้ามากจากนั่นมานี่ ปรับอารมณ์ไม่ทันเลย55555 ต่อจากนี้ไม่รู้จะมีฟิคงี้อีกไหม แต่ถ้ามาได้คงมาค่ะ แม้ว่าโอกาสจะมีน้อย



#perishfiction สกรีมให้เราได้นะคะที่แท็กนี้ ส่องอยู่ มีไรก็พูดคุยกันได้ 








  

ความคิดเห็น

  1. พี่จีมินคือร้ายกาจมาก ร้ายกับน้องแต่ก็มาอบอุ่นตอนจบ สู้ๆนะคะ รอติดตามผลงานเสมอ เป็นกลจ.ให้จ้า

    ตอบลบ
  2. ฮืออออออ สายตาจีมินเวลามองน้องปกติก็ดูเหมือนอสรพิษจ้องจะกลืนกินเหยื่ออยู่แล้วอ่ะ แล้ว ยิ่งมาเจอแบบนี้คือตายย อร๊ายย ยย ชอบให้รัดแล้วรักน้องแรง ๆ จัง

    ตอบลบ
  3. งื้ออออ อยากเห็นเค้าหวานๆกันบ้างเลยยน ขู่ฆ่าตลอด ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  4. ชอบไรท์นะคะ เป็นมินวีที่ทุกเรื่องจะไม่จำเจ อ่านแล้วแบบหว่าาใจสั่นเรากลัวพริ้ฆ่าน้องมากเลย ลุ้นมากกกใจกะสั่นอยู่นั่น555+ เป็นกำลังใจให้อยู่น้าาาเราชอบคนเก่ง ไรทเก่งมากเลยมายไอดอล!😄

    ตอบลบ
  5. โอ้ยยยฮือออ ดีมากเลยงับบ น้องเเทถึงจะกลัวเเค่ไหนเเต่ก็รักมากเหมือนกันน จีมินตอนท้ายๆคือโครตดี อ่อนหวานละมุ่นอะไรขนาดนี้ ถึงพี่จะโหดมากตอนเอนซีเถอะนะ 👏👏👏

    ตอบลบ
  6. แง้ พี่จีมินคืองูพิ้ดดด

    ตอบลบ
  7. ฟวฟวกวกวกวกวกว เขินมาก เขินมากมาก!!!!!!!! ฮืออออ งู้พิ้ดดดดดดดดดด

    ตอบลบ
  8. มันดีที้สุดเลยครับ T_T

    ตอบลบ
  9. ขอโทษที่ถามนะคะคือว่าชื่อเรื่องว่าอะไรหรอคะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

taehyung is that your daddy? — minv

Taehyung is that your daddy?  “แทฮยอง นั่นพ่อมึงหรอวะ” เด็กหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่หน้าห้องกระจกกับเพื่อนของเขาสองสามคนเงยหน้าขึ้นมา เมื่อมีคนสะกิดเขาที่กำลังก้มหน้ามองพื้น ทำเหมือนกำลังสำนึกแต่ที่จริงก็แค่ประหม่าเฉยๆ  ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่มีรอยฟกช้ำแถวมุมปากและผ้นพันแผลที่พันรอบนิ้ว ทุกสายตาที่อยู่ตรงนี้หันไปมองผู้มาใหม่ที่สันนิฐานกันไปแล้วว่าเป็นพ่อของคิมแทฮยองกำลังเดินเข้าไปในห้องกระจกเพื่อคุยกับครูในเรื่องที่เกิดขึ้นและแจ้งพฤติกรรมของนักเรียนในปกครอง “เอ่อ..คงงั้น” เสียงที่ตอบนั้นแผ่วเบา เพื่อนๆรอบตัวนั้นก็คิดว่าอย่างแทฮยองเองก็รู้สึกผิดและกลัวพ่อแม่จะรู้ แต่ใครจะรู้ที่เขาต้องพูดเสียงเบานั่นก็เพราะรอยยิ้มที่ส่งมาให้นั่นต่างหาก ทำเอาขนลุกเลยล่ะ “พ่อมึงยิ้มให้มึงด้วยว่ะ เป็นแม่กูนะคงหน้าถมึงทึงมาแน่ๆ เขาดูใจดีว่ะ มิน่ามึงถึงนิสัยเสียแบบนี้55555” “สัด” แทฮยองทำท่าจะศอกใส่เพื่อนปากดีของตัวเอง ที่บังอาจหลอกด่าเขา แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของหนุ่มหล่อสุดป็อปของโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ ก็ไม่ได้มีแววเล่นเลยแม้แต่น้อย แม้...

MINV — crypticness

“ อื้อ !!”  ใบหน้าเรียวหันหนีริมฝีปากของคนเป็นเด็ก แต่กระนั้นเพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ ทำได้แค่ร้องครวญคราง ยามที่ถูกสัมผัสกาย ภายในบ้านหลังเดิม แต่กลับดูน่ากลัวมากในเวลานี้ ปาร์คจีมินยกยิ้มที่มุมปาก ยามเห็นแววตาแข็งกร้าวที่ไม่เคยได้เห็นจากคุณพ่อบุญธรรมของเขาเสียเท่าไหร่ " อ้าปากหน่อย เร็ว!"  มือเล็กๆทว่าเรี่ยวแรงกลับมหาศาลนั่นบีบเข้าที่แก้มสองข้างจนทำให้แทฮยองอ้าปาก ปล่อยให้ลิ้นจากอีกคนเข้ามาสำรวจายในได้ แทฮยองไม่รู้ว่ายาอะไรที่คนตรงหน้าแดงใส่เขาในตอนที่จูบกันเมื่อครู่ แต่ว่ามันทำให้เขาเพียงแค่ขยับปากร้องเท่านั้น ขยับร่างกายไม่ได้เหมือนถูกตัดเส้นประสาท ดวงตาพร่าเลือนมองฟันคมที่กัดริมฝีปากของเขาอย่างเอาแต่ใจ  เปลือกตาของแทฮยองหนักขึ้นทุกวินาที รับจูบละผละออกอยู่หลายนาทีจนกระทั่งพอใจ จีมินถอยออกมาใช้หลังมือเช็ดน้ำลายที่มุมปากของตัวเอง ดวงตาเรียวมองใหน้าที่ขึ้นสีและเสียงหอบหายใจจากอีกฝ่าย เขาค่อนข้างพอใจ นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด นี่แหละ มันถึงเวลาเสียที " ไม่คิดเลยนะว่าจากเด็กอายุสิบห้าในตอนนั้นจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ส...

MINV — Please forgive me daddy / cut

Please forgive me daddy " เราเลิกกันไหม ? ปาร์คจีมิน " สิ้นประโยคนั้นเหมือนสติของปาร์คจีมินขาดผึง เขามองคนตรงหน้าที่ไม่มีแม้แต่ความลังเล แทฮยองไม่ร้องไห้ แต่จ้องมาที่จีมินอย่างจริงจัง ในตอนนั้นหัวของจีมินมีแต่ความไม่เข้าใจ ทำไมแทฮยองถึงพูดมันออกมาได้ง่ายอย่างนั้น " ฉันไม่เลิก " เขาจะไม่ยอมให้แทฮยองทิ้งเขาไป ทิ้งเขาเหมือนผู้หญิงคนนั้น ไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากบางของแทฮยองก็ถูกครอบครองโดยปากของอีกคน จีมินกดจูบลงมาอย่างแนบแน่น มือหยาบคว้าท้ายทอยของอีกฝ่ายดึงรั้งให้แนบชิด จนได้ยินเสียงหายใจและเสียงครางประท้วงอย่างไม่พอใจของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ลิ้นร้อนกวาดเข้าไปสำรวจในโพรงปาก เกี่ยวตวัดกับอวัยวะเดียวกันที่เอาแต่ต่อต้าน จีมินเอื้อมมือไปบีบปลายคางเมื่อแทฮยองพยายามจะหันหน้าหลีกหนี แรงบีบที่ไม่น้อยทำให้แทฮยองเจ็บจนต้องเอามือไปกำข้อมือของคนที่คร่อมร่างเขาไว้ให้ปล่อย ทั้งสองคนแลกลิ้นกันอยู่นานจนในที่สุดจีมินเป็นเป็นฝ่ายผละออก ดวงตาเรียวมองคนใต้ร่างที่หอบหายใจอย่างเหนื่อย ใบหน้าสวยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ดวงตาหวานเยิ้มคลอไปด้วยน...